เบื้องหลังความปังของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว
ตลอดปี 2567 ที่ผ่านมา ไม่มีใครไม่รู้จัก “หมูเด้ง” ฮิปโปแคระตัวน้อยแห่งสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซุปเปอร์สตาร์ที่โลดแล่นอยู่บนโลกออนไลน์ผ่านแฟนเพจสุดครีเอต “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊งค์” กลายเป็นไวรัลทั้งในไทยและต่างประเทศ สร้างปรากฏการณ์ให้สวนสัตว์กลับมาคึกคักอีกครั้งชนิดที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
หนึ่งในเบื้องหลังความสำเร็จนี้ คือ “คุณณรงวิทย์ ชดช้อย” ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ผู้วางเป้าหมายไว้ชัดเจนตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งผอ.สวนสัตว์แห่งนี้ว่า
“เราจะทำให้สวนสัตว์แห่งนี้ดีขึ้นในทุกมิติ”
ตั้งแต่การดูแลสวัสดิภาพสัตว์ให้มีประสิทธิภาพ ปรับปรุงภูมิทัศน์ให้น่าเที่ยว การบริหารทีมงานต่างวัยให้ทำงานร่วมกันได้ ไปจนถึงการสร้างระบบหารายได้อย่างยั่งยืนภายใต้กรอบของราชการ และเป้าหมายระยะไกลคือการผลักดันสวนสัตว์แห่งนี้ให้ติด 1 ใน 5 สวนสัตว์ที่ดีที่สุดในเอเชีย และ 1 ใน 10 สวนสัตว์ที่ดีที่สุดของโลกให้ได้
จุดเปลี่ยนคือ “โซเชียลมีเดีย”
ผอ.ณรงวิทย์เล่าว่า โซเชียลมีเดียคือประตูบานใหม่ของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว เป็นเครื่องมือเปลี่ยนประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวและการทำงานของเจ้าหน้าที่ไปพร้อมกัน โดยมีจุดเริ่มต้นคือ “คุณเบ๊นซ์ อรรถพล หนุนดี” หรือที่แฟนเพจรู้จักกันในชื่อ “พี่เลี้ยงหมูเด้ง” เจ้าของเพจ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊งค์” ผู้ปลุกปั้นหมูตุ๋นให้โด่งดังเป็นสัตว์ซุปตาร์ตัวแรกของสวนสัตว์ จากนั้นตามด้วย “คาปิบาร่า” และพีคสุดคือ “หมูเด้ง” ที่เรียกได้ว่าเปลี่ยนภาพจำสวนสัตว์จากหน้ามือเป็นหลังมือ
กระแสที่เกิดขึ้นดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้ามาแบบไม่เคยมีมาก่อน นักท่องเที่ยวคนไทยและต่างชาติทวีคูณจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงเวลาสั้น ๆ เรียกได้ว่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรอบที่เคยซบเซาให้กลับมาคึกคักได้อีกครั้ง ในอีกมุมหนึ่งภาพจำใหม่ที่เกิดขึ้นกับหมูเด้ง ผอ.ณรงวิทย์เชื่อว่าแม้สวนสัตว์จะเป็นหน่วยงานภายใต้ภาครัฐที่มีกรอบระเบียบชัดเจน แต่ก็สามารถสร้างบรรยากาศใหม่ ๆ และยกระดับประสบการณ์เที่ยวสวนสัตว์ให้ดีขึ้นได้
ในฐานะหัวหน้าผู้บังคับบัญชา ผอ.ณรงวิทย์กล่าวชื่นชมคุณเบ๊นซ์ ผู้ปลุกกระแสให้สวนสัตว์เปิดเขาเขียวมีชื่อเสียงอยู่เสมอว่าเป็นคนที่ตั้งใจจริง ลงมือทำเองทุกอย่าง ตั้งแต่ลงทุนซื้ออุปกรณ์ เรียนตัดต่อภาพ วิดีโอ คิดคอนเทนต์ ไปจนถึงศึกษาการทำงานของอัลกอริธึ่มบนแต่ละแพลตฟอร์มจนเข้าใจ แต่ก็มักจะโดนชาวเน็ตคอยสังเกตอยู่เสมอ ดังนั้นผอ. ณรงวิทย์มองว่าการเข้าไปมีส่วนร่วมในคอนเทนต์จะทำให้เขารู้สึกอุ่นใจที่มีคนคอยสนับสนุนแและปกป้องอยู่เสมอ
(ภาพจากเพจ ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง)
“จังหวะที่ผมเข้ามารับตำแหน่ง ผมเห็นแล้วว่าการใช้โซเชียลมีเดียจากเพจขาหมู แอนด์เดอะแก๊งค์ค่อนข้างไปได้ดี เราเข้ามาก็เรียนรู้ว่าที่ผ่านมาเขาเคยโดนอะไรมาบ้าง ถึงยังทำให้กล้ายืนหยัดมาถึงวันนี้ เราก็ได้เรียนรู้ว่าเขาขาดคน Protect ในการทำคอนเทนต์ ผมเลยลงไปร่วมทำคอนเทนต์กับเขาเพื่อให้เขารู้ว่านี่คือการ Protect เขา มันจึงทำให้การใช้โซเชียลมีเดียในเขาเขียวเดินหน้าได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง นอกจากนี้ยังหารือกับทีมงานระดับบริหารว่าเราจะทำยังไงให้คอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียของเราขับเคลื่อนไปได้ และค่อย ๆ ได้รับการยอมรับมากขึ้น” ผอ. ณรงวิทย์ กล่าวถึงการเอาตัวเองเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของคอนเทนต์ในเพจ ซึ่งแสดงถึงการมีส่วนร่วมและเป็นเกราะป้องกัน พร้อมจะคุ้มครองและสนับสนุนลูกน้อง ให้ไม่ต้องเผชิญปัญหาอย่างโดดเดี่ยว
ความสำเร็จที่แผ่กิ่งก้านสาขา
ความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากปรากฎการณ์หมูเด้ง เรียกได้ว่าเป็นต้นแบบของการทำคอนเทนต์เชิงสร้างสรรค์ และยังกลายเป็น Role Model ที่ผอ.อยากผลักดันให้เจ้าหน้าที่ในโซนอื่น ๆ ลุกขึ้นมาอัปสกิล ถ่ายทอดความน่ารักของสัตว์ในความดูแลของตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นความสำเร็จของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว กลายเป็นต้นแบบสู่สวนสัตว์อื่น ๆ ภายใต้องค์การสวนสัตว์ฯ มีการกำหนดตัวชี้วัด KPI ของสวนสัตว์ในการสร้างดาวเด่นในแต่ละแห่ง โดยการถอดบทเรียนการใช้โซเชียลมีเดีย นำไปสู่การถ่ายทอดความรู้จากปรากฎการณ์หมูเด้ง ทำเป็นคู่มือให้กับสวนสัตว์อื่นๆ ได้ทดลองทำเช่นกัน และมีกระบวนการวัดผล ผู้ติดตาม และคนที่เข้ามาเที่ยวสวนสัตว์อย่างชัดเจน สะท้อนว่าเป็นหนทางในการใช้โลกออนไลน์ในการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านสัตว์ป่าในมุมที่เข้าถึงง่าย สนุก และเป็นกันเองมากขึ้น
รางวัล Thailand Social Awards คือเครื่องการันตีความสำเร็จ
ความพยายามทั้งหมดนี้ ปูทางให้สวนสัตว์เปิดเขาเขียวคว้ารางวัล Winner ในงานประกาศรางวัล Thailand Social Awards กลุ่มรางวัล Best Brand Performance on Social Media สาขา Public Service หรือ หน่วยงานบริการ ไปครองอย่างสมศักดิ์ศรี ตอกย้ำว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาจากการความพยายามบวกกับการใช้โซเชียลมีเดียอย่างสร้างสรรค์ ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสสวนสัตว์ ไม่ใช่แค่รางวัลที่ได้มาจากการโหวตให้คะแนน แต่ผลที่เกิดขึ้นนั้นมาจากการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายที่ช่วยกันให้ประสบความสำเร็จได้
ผอ.ณรงวิทย์กล่าวทิ้งท้ายเป็นการขอบคุณ “สัตว์ทุกตัว” ที่เป็นหัวใจสำคัญของสวนสัตว์เลยก็ว่าได้ และยัง ขอบคุณ Zoo Keeper และเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่อยู่เบื้องหลัง รวมถึงพันธมิตร องค์กรรอบข้าง และนักท่องเที่ยวทุกคนที่ร่วมสร้างความคึกคักให้กับสวนสัตว์ที่มาแรงที่สุดแห่งปีนี้ พร้อมตั้งเป้าหมายในการยกระดับให้สวนสัตว์เปิดเขาเขียวเป็นสวนสัตว์ที่มีการจัดการด้านสวัสดิภาพสัตว์ที่ดีที่สุด และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลกให้ได้!

